เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) ได้ไปร่วมประชุมสภาเมืองครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2553 ที่ทางเทศบาลนครขอนแก่นจัดขึ้น เขาจัดกันประจำแหละครับ และประชาชนชาวขอนแก่นก็เข้าร่วมได้ ผมเข้าร่วมครั้งสุดท้ายก็เมื่อ 2 ปีก่อน ดังบันทึกไว้ (ตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2)
ประชุมครั้งนี้ มีวาระหารือ 4 วาระ และแจ้งเพื่อทราบ 1 วาระ รวมเป็น 5 วาระ
วาระที่ 1: ย้ายอนุสาวรีย์จอมพลสฤษดิ์
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีคนที่ 11 ของไทย คือผู้มีคุณูปการต่อขอนแก่นเป็นอย่างมาก เป็นนายกฯ คนแรกที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาชนบทอย่างจริงจัง โดยได้ริเริ่มร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค และได้วางยุทธศาสตร์ให้จังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดนำร่อง ด้วยสภาพที่ตั้งที่เหมาะสม จนทำให้ขอนแก่นกลายเป็นศูนย์กลางความเจริญแห่งใหญ่ในภาคอีสานในทุกวันนี้
ชาวขอนแก่นได้สร้างอนุสาวรีย์เพื่อระลึกถึงท่านไว้ที่สวนรัชดานุสรณ์ แต่ปัจจุบันสภาพพื้นที่ได้เปลี่ยนไป สิ่งปลูกสร้างโดยรอบเริ่มบดบังภูมิทัศน์ของอนุสาวรีย์ ทั้งบริเวณอนุสาวรีย์ก็เป็นที่ต่ำน้ำท่วมขังบ่อย สภาพจึงทรุดโทรมลง ค่ายศรีพัชรินทร์ซึ่งเคยส่งพลทหารมาบำรุงรักษาบ่อย ๆ จึงมีแนวคิดที่จะย้ายอนุสาวรีย์จอมพลสฤษดิ์ไปที่ใกล้จวนผู้ว่าฯ โดยคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ช่วยออกแบบอนุสาวรีย์ใหม่ให้ แต่จากบันทึกประชุมสภาเมืองครั้งที่แล้ว (2 พ.ย. 2552) มีความเห็นจากที่ประชุมว่าควรพิจารณาทางเลือกอื่นหลาย ๆ ที่ พร้อมกับรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายต่าง ๆ ด้วย
ประชุมครั้งนี้ ก็เลยมีการเสนอสถานที่เข้ามาใหม่เป็นทางเลือกทั้งหมด 4 แห่ง คือ
- หน้าสวนสุขภาพบึงทุ่งสร้าง
- บริเวณพื้นที่ว่างลึกเข้าไปในบึงทุ่งสร้างด้านตรงข้ามสวนอาหาร
- ในสวนสุขภาพประตูเมือง
- บึงสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เกณฑ์การพิจารณาที่คณะทำงานใช้ในการประเมินความเหมาะสมของสถานที่:
- การสัญจรไปมาและการเข้าถึง
- มุมมองและการนำสายตา
- ความสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์
- การขยายตัวเพื่อจัดกิจกรรมในอนาคต
- สภาพแวดล้อมทางกายภาพ
- ความพร้อมของสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
บางส่วนจากการอภิปราย:
- หน้าสวนสุขภาพบึงทุ่งสร้างเหมาะสมในแง่ของความสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์ เพราะจวนผู้ว่าฯ ที่อยู่ตรงนั้นเป็นที่พำนักของจอมพลสฤษดิ์ขณะมาราชการที่ขอนแก่น และเป็นสถานที่ที่ใช้ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 1 ถนนเส้นที่ตัดเข้าไปหน้าจวนจึงได้ชื่อว่า "ถนนจอมพลพัฒนา" ภูมิทัศน์ก็เหมาะสม สามารถใช้ถนนจอมพลเป็นเส้นนำสายตาได้เป็นอย่างดี รวมทั้งสามารถพัฒนาจวนผู้ว่าฯ ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับจอมพลสฤษดิ์ได้ด้วย แต่อาจมีปัญหาเรื่องความคับแคบของสถานที่ และอาจต้องรื้อประตูสวนสุขภาพฯ เพื่อใช้สถานที่บางส่วนสำหรับตั้งอนุสาวรีย์
- บริเวณที่ว่างลึกเข้าไปในแถบบึงทุ่งสร้าง ยังคงไม่ห่างจากจวนมากนัก และพื้นที่กว้างขวางสามารถปลูกสร้างได้ทันที แต่ข้อเสียคือจะอยู่ในมุมอับ มองเห็นได้ยากจากภายนอก
- สวนสุขภาพประตูเมือง มีความเหมาะสมเรื่องความเด่น เพราะอยู่ริมถนนมิตรภาพและอยู่ใกล้ประตูเมือง ผู้สัญจรไปมาสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย และยังมี landmark ที่อยู่ใกล้สำหรับผู้มาเยือน คือเซ็นทรัลพลาซา และศาลหลักเมือง แต่อาจจะอ่อนด้อยเรื่องความสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์
- บึงสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย เพราะมหาวิทยาลัยขอนแก่นก่อตั้งเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ด้วยดำริของจอมพลสฤษดิ์ จึงถือว่าท่านเป็นผู้สถาปนามหาวิทยาลัย ในด้านทำเลที่ตั้ง บึงสีฐานก็อยู่ริมถนนมะลิวัลย์ที่เป็นทางเข้าเมืองจากด้านชัยภูมิ-ชุมแพ ความเป็นบึงจะทำให้อนุสาวรีย์โดดเด่นอยู่กลางบึง และเปิดทางให้กับการตกแต่งทางน้ำ
หลังจากอภิปรายแล้วก็มีการนับคะแนนเสียง ปรากฏว่าเสียงส่วนใหญ่เทให้กับบริเวณหน้าสวนสุขภาพบึงทุ่งสร้างอย่างท่วมท้น (122 เสียง) โดยบึงสีฐานตามมาห่าง ๆ เป็นอันดับสอง (59 เสียง) ถัดมาเป็นสวนประตูเมือง (23 เสียง) และพื้นที่ว่างด้านในบึงทุ่งสร้าง (1 เสียง)
ดูเหมือนไม่มีใครคัดค้านการย้ายอนุสาวรีย์ เพราะสถานที่ปัจจุบันคงไม่เหมาะจริง ๆ
วาระที่ 2: การศึกษาพื้นที่เฉพาะ บริเวณคลังน้ำมัน
ขอนแก่นมีคลังน้ำมันสามแห่งใกล้ ๆ กัน คือของ เชฟรอน, เชลล์ และ ปตท. ซึ่งที่ตั้งจะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ และเดิมจะอยู่ห่างจากชุมชน แต่ปัจจุบันเมืองขอนแก่นมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนชุมชนเริ่มรุกล้ำเข้าไปโอบล้อมคลังน้ำมันมากขึ้น จนเกิดความวิตกกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อมีการก่อวินาศกรรม เทศบาลฯ จึงได้ศึกษาผลกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียง พร้อมประเมินว่าถ้าพื้นที่นี้ไม่ได้เป็นคลังน้ำมัน จะใช้ทำอะไรได้บ้าง
เทศบาลฯ ชี้แจงว่า หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง คือสำนักงานพลังงานจังหวัด และสำนักความปลอดภัยธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน มีการตรวจสอบความปลอดภัยและระบบรักษาความปลอดภัยของคลังอยู่เป็นประจำ ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ก็จะไม่ต่ออายุใบอนุญาตให้
ตัวแทนจากบริษัทน้ำมันทั้งสาม ได้ชี้แจงว่าถังที่บรรจุน้ำมันนั้น มีระบบป้องกันที่แน่นหนา จะไม่มีการบรรจุน้ำมันจนเต็มถัง และมีการซ้อมแผนฉุกเฉินกันอยู่เป็นประจำ จึงขอให้ประชาชนวางใจ อย่าวิตกกังวลจนเกินไป
ความเห็นภาคประชาชนส่วนใหญ่อยากให้ย้ายคลังน้ำมัน แต่อาจจะไม่ต้องย้ายทันที แค่ให้เริ่มสร้างในสถานที่ใหม่แล้วค่อย ๆ ปลดระวางในสถานที่เก่า อย่างน้อย ๆ ตอนนี้ก็ไม่สามารถขยายพื้นที่ในที่เดิมได้อีกแล้ว มีข้อเสนอให้จัดเขตเศรษฐกิจพิเศษสำหรับคลังน้ำมันด้วย โดยห้ามตั้งบ้านเรือนในรัศมีที่กำหนดรอบเขตดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดซ้ำอีก
มีความเห็นจากผู้ประกอบธุรกิจปั๊มน้ำมัน เห็นว่าการย้ายคลังน้ำมันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการขนส่งน้ำมันจะใช้รถไฟเป็นหลัก คลิงน้ำมันจำเป็นต้องมีท่อส่งน้ำมันจากสถานีรถไฟ ดังนั้นจึงต้องอยู่ใกล้สถานีรถไฟ ซึ่งจะมีผลต่อการหาสถานที่ใหม่ และทำให้ไม่สามารถย้ายได้บ่อย ๆ หรือในระยะสั้น
นายกเทศมนตรีสรุปว่าจะไม่มีมาตรการใด ๆ สำหรับวาระนี้ จะมีเพียงหนังสือแจ้งเพื่อทราบเกี่ยวกับความเห็นของสภาเมืองส่งถึงบริษัทน้ำมันทั้งสามเท่านั้น ที่เหลืออยู่ที่ดุลยพินิจของบริษัทว่าจะดำเนินการอย่างไร
วาระที่ 3: สร้างทางข้ามต่างระดับ (fly over) ที่ถนนหลังศูนย์ราชการ
เมืองขอนแก่นเริ่มเติบโตข้ามถนนมิตรภาพไปทางฝั่งตะวันตกมากขึ้น ทำให้มีการจราจรข้ามถนนมิตรภาพไปมาหนาแน่นขึ้น แต่ทางออกมีไม่กี่จุดเท่านั้น จึงเกิดสภาพจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วนมากขึ้นเรื่อย ๆ ถนนหลังศูนย์ราชการก็เป็นช่องทางหนึ่งที่น่าจะช่วยระบายรถออกได้ แต่สภาพปัจจุบันเกิดคอขวดตรงทางข้ามทางรถไฟ อีกทั้งรถที่จะเลี้ยวขวาออกถนนมิตรภาพจะต้องเลี้ยวซ้าย วิ่งตัดช่องถนนเข้าช่องขวาเพื่อกลับรถที่แยกสามเหลี่ยม ทำให้รถต้องมาคับคั่งที่แยกสามเหลี่ยมอยู่ดี และจากระยะทางที่เพิ่มขึ้น รถทั้งหลายจึงมีแนวโน้มจะมาออกที่แยกสามเหลี่ยมโดยตรงมากกว่า
จึงเกิดแนวคิดจาก สท. ท่านหนึ่งว่า ถ้าสามารถทำให้รถเลี้ยวขวาจากถนนหลังศูนย์ราชการออกมิตรภาพได้โดยตรง จะทำให้เกิดช่องทางระบายรถออกจากเมืองเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งช่อง โดยไม่กลับมาเบียดกันที่แยกสามเหลี่ยมอีก จึงเสนอให้สร้างทางข้ามต่างระดับเลี้ยวขวาตรงแยกนี้ พร้อมทั้งขยายช่องทางตรงจุดที่ข้ามทางรถไฟจากสองช่องเป็นสี่ช่อง (ซึ่งจำเป็นต้องทำอยู่แล้วถ้าจะสร้างทางข้าม)
มีข้อสังเกตจากภาคประชาชนว่าทำไมไม่ทำช่องเลี้ยวขวาจากถนนมิตรภาพเข้าถนนหลังศูนย์ฯ ด้วย โดยอาจจะทำทางต่างระดับยกถนนมิตรภาพแทน แล้วทำไฟจราจรให้รถจากถนนรองเลี้ยวลอดใต้ทางข้ามเอา ซึ่งจะทำให้มีการเชื่อมโยงกับถนนหมอชาญอุทิศทางฝั่ง มข. ด้วย มีคำตอบจาก สท. ว่าจุดประสงค์คือต้องการระบายรถออกจากเมืองในชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้น และการทำทางยกระดับมิตรภาพไม่สามารถทำได้ เพราะอยู่ใกล้ปากอุโมงค์ลอดแยกสามเหลี่ยมเกินไป
มีอีกความเห็นหนึ่งว่าอยากให้ประเมินทางเลือกอื่นเปรียบเทียบด้วย เช่น การสร้างเกือกม้ากลับรถ และเป็นไปได้ไหมที่จะทำช่องทางให้รถมอเตอร์ไซค์ต่างหากด้วย สท. ไม่ตอบประเด็นแรก เพราะคิดว่าเป็นเรื่องกลับรถไม่ใช่เลี้ยวขวา แต่ประเด็นหลังขอกลับไปศึกษาเพิ่มเติม
วาระที่ 4: ตัดถนนเชื่อมถนนผังเมือง ข6 และ ข7
สท. อีกท่านหนึ่งได้เสนอแนวคิดตัดถนนเชื่อมถนนผังเมือง ข6 และ ข7 ซึ่งอยู่คนละฟากถนนมิตรภาพ ถนน ข6 คือถนนราษฎร์คนึงซึ่งมาสุดที่สามแยกบ้านดอน ถนน ข7 คือถนนด้านฝั่งตะวันออกของมหาวิทยาลัยขอนแก่นด้านหน้าศูนย์ประชุมกาญจนาภิเษก เมื่อกฎหมายผังเมืองเดิมหมดอายุลง จึงมีการเสนอให้ปรับผังเมืองข้อหนึ่งคือตัดถนนจากสามแยกบ้านดอนข้ามทางรถไฟไปทะลุออกถนนมิตรภาพ และเชื่อมไปยังฝั่งตรงข้ามเข้าสู่มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ทางเชื่อมนี้ นอกจากจะเพิ่มทางเลือกในการสัญจรแล้ว ยังสามารถดักน้ำจำนวนมหาศาลจากมอดินแดงในหน้าฝนไม่ให้เข้ามาท่วมในเมือง โดยสามารถฝังท่อขนาดใหญ่ใต้ถนนเพื่อระบายน้ำออกสู่บึงทุ่งสร้างอย่างรวดเร็วได้
ความเห็นจากที่ประชุมคือ ยังไม่มีการสำรวจว่าแนวถนนนี้จะตัดผ่านบ้านเรือนใครบ้าง การเวนคืนอาจจะไม่ง่าย และชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบก็ได้มาร่วมประชุมและเสนอทางเลือกอื่นด้วย เรื่องนี้นายกเทศมนตรีรับว่าจะต้องทำประชาพิจารณ์กับประชาชนในพื้นที่ก่อน
วาระที่ 5: เปิดตัวโครงการ "ความดีที่ขอนแก่น"
โครงการ "ความดีที่ขอนแก่น" เทศบาลนครขอนแก่นเชิญชวนให้ประชาชนเขียนเรื่องราวของคนรอบข้างที่ทำความดีประมาณ 4-5 บรรทัดหรือมากกว่าเพื่อผลิตสื่อเผยแพร่ ส่งไปที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กองวิชาการและแผนงาน เทศบาลนครขอนแก่น ถ.ประชาสำราญ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000 วงเล็บมุมซองว่า "ความดีที่ขอนแก่น" หรือส่งอีเมลไปที่ jay_kkmuni at hotmal dot com
ป้ายกำกับ: local