ฟอนต์ทำ normal face เสร็จแล้ว แต่มีงานต้องเคลียร์ที่โรงเรียน เลยต้องพักไว้ก่อน ก่อนจะทำ bold
face ต่อ แต่งานที่ว่า ทำแค่สองวันก็สะสมความหงุดหงิดได้มาก
เริ่มจาก ติดตั้ง debian ใน PC ประมาณ 30 เครื่องแบบ dual boot โดยต้องเข้า Windows
ไปจัดการเรื่องพาร์ทิชันก่อน ก็ปรากฏว่า เหมือนเพิ่งได้เจอสิ่งที่เคยเป็นแค่ "เสียงลือเสียงเล่าอ้าง"
ที่เคยได้ยินมาเกี่ยวกับ Windows เช่น เริ่มจากเปิดเครื่องมาใหม่ๆ ก็จะมี balloon ขึ้นมาบอกข้อความ
ว่ามี update มั่ง มีไอคอนไม่ได้ใช้งานมั่ง ซึ่งต้องคอยตามคลิกปิดทั้งหมดก่อนจะได้ใช้งาน ถ้าไม่ปิด
เสียบ handy drive ก็ใช้ไม่ได้ด้วย ต่อจากนั้น ก็มีข้อความแปลกๆ มาที่ MSN อยู่เรื่อยๆ ตามมาด้วย
pop-up โฆษณาในบางเครื่อง ไล่ปิดจนหงุดหงิด กว่าจะจัดการพาร์ทิชันสำเร็จ.. โห.. คน Windows
เขาทนใช้อยู่ได้ยังไงเนี่ย คนนั่งข้างๆ ยังว่าผมแปลกเสียอีกที่บ่น เออนะ แปลกดี
ติดตั้งจนเสร็จ ต่อไปเด็กๆ ก็คงได้เปรียบเทียบกับลินุกซ์มั่งละ ว่ามันราบรื่นต่างกันแค่ไหน
เท่าที่ลงในเครื่องจำนวนมากแบบนี้ พบว่า auto partitioning ของ debian installer
ช่วยประหยัดเวลาได้มากเลย (ใครบ่นว่า debian install ยาก ต้องคิดใหม่แล้วละ) แต่อยากให้
resize partition ได้ด้วยจัง ยากไปไหมเนี่ย :-/
งานต่อมา เป็นการตั้ง server ตัวใหม่ ก็ใช้ debian เหมือนเดิมน่ะแหละ (ใช้ local sub-mirror
ให้คุ้ม) ตัวงานเองไม่มีอะไรน่าหงุดหงิด แต่ระหว่างที่นั่งทำ ก็จะมีสิ่งรอบด้านเข้ามา เช่น ได้ยินคำสั่ง ผอ.
ให้ลบลินุกซ์ในโน้ตบุคที่ลงแบบ dual boot ทิ้ง ด้วยเหตุผลว่า มันทำให้ Windows ช้า
ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมเคยชี้แจงไปหลายรอบแล้ว ว่ามันไม่เกี่ยวกันเลย ลินุกซ์กับ Windows
มันไม่ได้ทำงานพร้อมกันเสียหน่อย การโทษลินุกซ์ก็เหมือนโทษว่า การแบ่งฮาร์ดดิสก์เป็น drive C: กับ
drive D: (โดยไม่ได้ใช้ drive D:) ทำให้ Windows ช้าลง ซึ่งไม่มีเหตุผลเลย
เหมือนคนเป็นไข้แล้วโทษว่าผีเข้า แทนที่จะไปดู config ของ Windows หรือแม้แต่ตัวฮาร์ดแวร์เอง
ซึ่งอาจจะมี RAM ไม่เพียงพอให้ Win XP ผลาญเล่น เลยโวยไปหนึ่งดอก แต่ไม่รู้ว่าเก็ตกันขนาดไหน
เพราะถ้าเก็ต ก็คงไม่มีคำสั่งระลอกใหม่มาเรื่อยๆ อย่างนี้ (ที่โวยไม่ใช่อะไร ผมเองก็เดือดร้อนด้วย
ที่เด็กชุมนุมลินุกซ์ไปเบิกโน้ตบุคมาใช้แล้วเครื่อง hang ขณะบูตเข้าลินุกซ์ เพราะคนที่ลบ เขาแค่ format
partition ใหม่ ไม่ได้จัดการ bootloader ด้วย —แต่ช่างเหอะ
เทอมหน้าผมก็เลิกสอนแล้ว เพราะจะมีคนรับช่วงแทน อิๆ)
โวยจบไป ตอนเย็นมี request ขอเพิ่มข้อมูลในเว็บ โดยส่งเอกสารมาเป็น .doc อีก
ผมไม่ไหวแล้ว เลยไล่กลับไป convert เป็น plain text มาก่อน ถ้าอยากได้เร็ว
สองวันเต็มกับ Windows culture ที่อัดเข้ามาพร้อมๆ กัน ฝันร้ายจริงๆ
ปล. พยายามจะบ่นให้น้อยที่สุดน่ะนะ เพราะบ่นยังไง มันก็ฟังเหมือนการบ่นตามแบบฉบับ
แต่นี่เป็นประสบการณ์ตรง ที่ไม่ได้นึกเอาเองแต่อย่างใด