OSSFest 2010
เพิ่งกลับมาถึงบ้านครับ จากงาน OSSFest 2010 ที่สถาบันปัญญาภิวัฒน์ งานเขามีสองวัน 30 ก.ย. - 1 ต.ค. (พฤหัส-ศุกร์) จบงานแล้วผมก็อยู่ทำธุระต่อ จนกระทั่งเพิ่งกลับขอนแก่นเมื่อวานนี้
ในงานก็ได้พบปะกับหลาย ๆ คน ได้ฟังความรู้ความคิดเห็นจากหลาย ๆ ท่าน
- คุณ James Clark: FOSS ในยุค cloud และ mobile
-
วันแรกหลังพิธีเปิด คุณ James Clark บรรยายเกี่ยวกับความสำคัญของ FOSS ในยุค cloud และ mobile โดยได้ให้ทัศนะว่าความสำคัญจะย้ายไปอยู่ที่ผู้ให้บริการและองค์กรมากขึ้น ซึ่งก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ตามแนวโน้มของการเกิดและใช้งาน web application มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็แอบคิดแย้งในประเด็นที่บอกว่า FOSS นั้น ไม่สำคัญเลยกับผู้ใช้ mobile
คุณเจมส์บอกว่า ผู้ใช้ mobile ไม่สนใจหรอก ว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้ในโทรศัพท์นั้นเป็น FOSS หรือไม่ ผมคิดว่าไม่จริง เอาง่าย ๆ ถ้าพูดกันแค่เรื่องราคา ผู้ใช้ก็มีแนวโน้มเลือกโปรแกรมฟรีก่อนโปรแกรมซื้อถ้ามันใช้งานได้ดีพอ และสำหรับคนที่คุ้นเคยกับเสรีภาพที่จะแก้บั๊กต่าง ๆ ด้วยตัวเอง การต้องกลับไปใช้ซอฟต์แวร์ที่มัดมือมัดเท้าไม่ให้ทำอะไรได้ก็จะรู้สึกอึดอัด ก็มันเคย apt-get ได้แทบทุกอย่าง มีบั๊กก็ apt-get source มาแก้แล้ว file bug หรืออยากจะดัดแปลงอะไรก็ทำได้ตามถนัด พอมาใช้มือถือก็ยังอยากได้ความสะดวกสบายแบบนั้น ที่ยังใช้ Android ที่ยังไม่สามารถ root ได้อยู่ ก็ยังหวังว่าสักวันหนึ่งเราจะได้เป็นเจ้าของแบบเต็ม ๆ คือจะทำอะไรกับมันก็ได้เหมือนอย่าง Debian on FreeRunner อยู่นะครับ
อ.กิตติ์ เสริมเรื่องความโปร่งใสของซอฟต์แวร์ อีกประเด็นหนึ่ง
- คุณ roofimon กับคอร์สวิศวกรรมซอฟต์แวร์แบบสบาย ๆ
-
จากบรรยายของคุณเจมส์ ก็มาต่อที่ community edition ซึ่งเริ่มงานช้ากว่าปกติ เพราะต้องรอพักทานกาแฟกันก่อน การพูดตอนเช้า 3 รายการก็เลยถูกหดเวลาลงจากคนละ 50 นาทีเหลือคนละ 30 นาที ผมเริ่มคนแรก กับหัวข้อ "How to Contribute to Debian" เลยต้องพยายามรักษาเวลาเต็มที่ พูดแบบติดเทอร์โบชนิดไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต ตามมาด้วยการแนะนำสิ่งใหม่ใน Ubuntu 10.10 โดยคุณมะระ ปิดท้ายก่อนพักเที่ยงโดยคุณ roofimon ว่าด้วยเรื่องวิศวกรรมซอฟต์แวร์กับภาษา Java
เครื่องมือสุดยอด ภาษาสุดยอด อะไรก็ตามแต่ที่คุณ roofimon เล่ามา รู้สึกว่าสิ่งที่สำคัญกว่านั้นในเนื้อหาคือเรื่องวินัยการพัฒนาโปรแกรม หัวอกโปรแกรมเมอร์จะเข้าใจได้ดี เวลาที่ต้องไป maintain โค้ดของคนที่เขียนโปรแกรมราวกับอยู่ท่ามกลางมรสุมชีวิต กลายเป็นโค้ดที่ "แม่สะดุ้ง" บ่อย ๆ :-P
- How to Build Community
-
ช่วงบ่ายก็มาสุมหัวเสวนากันเรื่องจะสร้างและดูแลชุมชนยังไง คุณมะระเล่าเกี่ยวกับ ubuntuclub ว่าพยายามทำให้ชุมชนเติบโต พยายามหารายได้มาโปะรายจ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อให้คนที่มารับช่วงต่อไม่ต้องลำบากมากนัก อ.วิภัทร เล่าเกี่ยวกับ PSU LUG ว่ามีการเรียนรู้จากความผิดพลาด ไม่รณรงค์แบบหว่านแห แต่เจาะดาวรุ่งเป็นกลุ่ม ๆ ช่วยติดปีกให้เขามาเป็นกำลังให้
ผมนั่งฟังทั้งสองท่านแล้วก็เลยนึกเปรียบเทียบกับแนวทางที่ debianclub ทำอยู่ ก็เลยเปรียบเทียบให้ฟัง คือ debianclub นั้นใช้แนวทางคล้ายกับ อ.วิภัทร ตรงที่ไม่พยายามหว่านแห แต่มุ่งไปที่ผู้ใช้ที่ใช้ debian มาพอสมควรแล้ว ซึ่งก็ได้รับความช่วยเหลือจากหลายท่านในการเขียนบทความมาเผยแพร่ แต่ก็พยายามไม่ให้เนื้อหาหนักเกินไปสำหรับมือใหม่ โดยจะมีเนื้อหาเบา ๆ หรือข่าวสารมาสลับบ้าง มี forum ให้ถามคำถาม ส่วนค่าใช้จ่ายก็อาศัย donation เป็นส่วนใหญ่ คือมีทั้งคนบริจาคเครื่องเซิร์ฟเวอร์ แบนด์วิดท์ ฮาร์ดดิสก์ ฯลฯ เหลือค่าใช้จ่ายเพียงอย่างเดียวที่ยังต้องออกกันเองกับนิวตรอนอยู่คือค่า domain
- PSU-12 Boot Server
-
ต่อจากนั้น แยกห้องทำ workshop ก็เข้าไปดู workshop ของ อ.วิภัทร เรื่องการทำ boot server สำหรับ diskless PC ที่ไม่ใช่แค่สำหรับ thin client แต่ดัดแปลงให้บูตได้หลายแบบ เป็น rescue, live CD, kiosk หรืออะไรก็ตามแต่ โดยควบคุมเป็นเครื่อง ๆ ได้ มีระบบเมนูให้เลือกบูต นับเป็น deployment ที่น่าสนใจมาก ๆ
- OpenStreetMap
-
โดยคุณ Willi มาบรรยายเกี่ยวกับที่มาและหลักการของ OSM วิธีการนำไปใช้ วิธีการ contribute พร้อมกับปูพื้นเพื่อทำ workshop ตอนบ่ายด้วย
- Translating OSS in Launchpad
-
โดยคุณจรูญ (Jeroen T. Vermeulen) ผู้พัฒนา Launchpad ของ Ubuntu มาเอง อธิบายว่า LP ทำอะไรได้บ้าง จะทำงานแปลจะมีวงรอบการประมวลผลยังไงบ้าง แต่สุดท้าย คำถามที่สงสัยคือ จะทำงานกับต้นน้ำยังไงดี ก็ได้รับคำตอบว่า ทีมคุณต้องไปตกลงกันเอง จบข่าว
- ประวัติศาสตร์แฮกเกอร์และโอเพนซอร์สไทย
-
เสวนาเล่าความหลัง โดย bact' เป็นผู้ดำเนินรายการ ผู้ร่วมเสวนาก็มี Ott, มะระ แล้วก็ผม ความจริงคงมีบางคนนอนสะดุ้งอยู่ที่ชลบุรี เนื่องจากถูกพาดพิงถึงบ่อย ๆ :-)
- You can eat Open Source
-
bact' มาดำเนินรายการต่อ สัมภาษณ์สองบริษัทที่ทำธุรกิจกับ FOSS คือ Marvelic Engine (โดยคุณ อัครวุฒิ) และ Metamedia Technology (โดย Ott)
- OSM Workshop
-
คุณ Willi พาทุกคนออกเก็บ GPS track ในบริเวณศูนย์ประชุม แล้วกลับมาวาดแผนที่ใน JOSM ให้ดู พร้อมกับบอกเทคนิคต่าง ๆ ได้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาเยอะเหมือนกัน
- อ.ปราสาท: ว่าด้วยเรื่อง 13 ฟอนต์ DIP-SIPA
-
มีโอกาสได้พบ อ.ปราสาท วีรกุล หนึ่งในคณะทำงานฟอนต์ DIP-SIPA ได้ทราบว่า เดิมนั้นเสนอให้ใช้ OFL กับฟอนต์ชุดนี้ แต่ฝ่ายกฎหมายของ DIP และ SIPA ได้ดัดแปลงสัญญาอนุญาตจนกลายเป็น postcardware ดังที่ปรากฏ และอาจารย์ยังได้ให้ข้อมูลอีกว่า ฟอนต์ชุดนี้รองรับผู้ใช้ Mac โดยใช้ AAT เนื่องจากการรองรับ OpenType บน Mac ยังไม่สมบูรณ์พอ ซึ่งก็คงเป็นแนวทางนำไปปรับแก้ ThaiFonts-Scalable ของ TLWG ได้
หลังงาน ก็อยู่ต่อเพื่อพบกับคุณ Martin Hosken เพื่อหารือเรื่องการแก้ไข Unicode UAX #29 เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการเลื่อนเคอร์เซอร์ข้ามสระหน้าและสระหลังของภาษาไทย ลาว และไทดำ พร้อมกันนั้นก็ได้คุยเรื่องการรองรับภาษาของชนกลุ่มน้อยที่ใช้อักษรไทย เช่น กุย/ส่วย, เขมรตอนเหนือ ฯลฯ รวมทั้งภาษาบาลี-สันสกฤต ซึ่งต้องร่างเป็นข้อกำหนด วทท 3 ต่อไป โดยคุณ Martin ได้สาธิตการใช้ฟีเจอร์ของ Graphite ใน OO.o เพื่อเขียนภาษาบาลี-สันสกฤตด้วย แต่ยังมีปัญหาบางอย่างที่ต้องแก้ไขอยู่ จึงยังไม่เผยแพร่ในตอนนี้ ถ้าทำเสร็จแล้วก็อาจจะเป็นคำตอบสำหรับ OO.o ต่อไป รวมทั้งการเพิ่มการรองรับแบบเดียวกันกับฟอนต์ OpenType ด้วย
ก่อนกลับบ้าน มีเวลาเหลือเล็กน้อย ก็ไปเก็บ GPS track แถวแยกประชานุกูล เอากลับมาทำแผนที่ OSM ต่อที่บ้านหลังจากกลับถึงขอนแก่นแล้ว
ป้ายกำกับ: debian, debianclub, FOSS, OO.o, openstreetmap
0 ความเห็น:
แสดงความเห็น (มีการกลั่นกรองสำหรับ blog ที่เก่ากว่า 14 วัน)
<< กลับหน้าแรก