ไม่ใช่แค่กระทู้จาก blognone หรือ ubuntuclub ที่มีการโยงเรื่องการรณรงค์ใช้ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์กับการเผยแพร่ FOSS เข้าด้วยกัน แต่จะพบหลายแห่งที่โยงเรื่องนี้เข้าด้วยกัน ซึ่งก็พอจะเข้าใจเหตุผลได้อยู่ เพราะการทำให้ผู้คนเห็นความสำคัญของ FOSS ก็ต้องเห็นความแตกต่างเรื่องราคาเสียก่อน และจะเห็นความแตกต่างเรื่องราคา ก็ต้องให้เขาเข้าใจเสียก่อน ว่าราคาที่แท้จริงของซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์เป็นอย่างไร โดยรณรงค์ให้เข้าใจการใช้ซอฟต์แวร์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
แล้วทุกคนก็เลยช่วยกันป่าวประกาศร่วมกับ BSA โดยมุ่งหวังให้เกิดการตื่นตัวของการใช้ FOSS แบบตระหนักถึงความสำคัญ
แต่.. ผมไม่แน่ใจ ว่านั่นจะเป็นวิธีที่เหมาะสม หลังจากที่ได้สังเกตปฏิกิริยาในที่ต่าง ๆ
จริงอยู่ ความเข้าใจเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเรื่องสำคัญต่อความเข้าใจแนวคิด FOSS โดยเฉพาะถ้าจะทำงานกับ FOSS แต่ propaganda ที่เป็นกระแสการโต้เถียงระหว่างผู้คนรอบนอกอย่างผิวเผิน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เราร่วมประสานเสียงกับ BSA สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คนที่ต่อต้าน BSA ก็จะต่อต้าน FOSS อย่างเหมารวมด้วยเช่นกัน ในทางกลับกัน ถ้าเราลดความร้อนแรงของการรุกผู้ใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนลง แต่เน้นการเสนอทางเลือกใหม่ที่ราคาสมเหตุสมผลกว่าแทน จะทำให้เกิดความรู้สึกต่อการเปลี่ยนมาใช้ FOSS ว่าเป็นการหนีร้อนมาพึ่งเย็นมากกว่าไหม?
พวกเราเป็นกลุ่มคนที่ตระหนักเรื่องวงจรอุบาทว์อันเกิดจากการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ใช้ของเถื่อนเพราะซอฟต์แวร์แพง ซอฟต์แวร์แพงเพราะเป็นของนอก ต้องใช้ของนอกเพราะไม่มีของไทย ไม่มีของไทยเพราะไม่มีนักพัฒนาทำขาย นักพัฒนาไม่ทำเพราะมีแต่คนใช้ของเถื่อน วนเป็นวัฏจักร) และพบว่า FOSS เป็นหนทางหนึ่งที่จะบรรเทาวงจรนี้ ทั้งในส่วนผู้ใช้และผู้พัฒนา ในแง่นี้ FOSS ถือเป็นเครื่องมือช่วยอย่างหนึ่ง และการขูดเลือดขูดเนื้อของซอฟต์แวร์นอก ดูจะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่เราพยายามจะแก้ด้วยซ้ำ แต่การที่คนกลุ่มเดียวกันไปรุกล้ำผู้ใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน โดยไม่มีโอกาสพูดประเด็นให้ครบ ก็เสี่ยงที่จะถูกต่อต้าน โดยถูกเหมารวมเป็นพวกเดียวกับกลุ่มนายทุนที่ขูดเลือดขูดเนื้อเสียมากกว่า น้อยนักที่จะมีโอกาสพูดจนถึงการแนะนำ FOSS
สำหรับผม ทุกวันนี้ใช้ซอฟต์แวร์เสรี 100% เครื่องผมมี FreeDOS ที่ติดตั้งมาจากโรงงาน แต่ OS หลักที่ใช้คือ Debian GNU/Linux นอกจากนี้ ก็แบ่งพาร์ทิชันเล็ก ๆ สำหรับ Ubuntu chroot ไว้ติดตามความคืบหน้า ผมไม่แตะต้องซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์มาหลายปีแล้ว หรือแม้แต่ freeware ที่ไม่เปิดซอร์ส ความพยายามใช้ FOSS ล้วนนี้ ไม่ใช่ว่าสุดโต่ง แต่เป็นเพราะได้เห็นแล้วว่าแนวคิด FOSS เป็นระบบที่สมเหตุสมผล เป็นไปได้ในทางปฏิบัติ ผมจึงจงใจตีกรอบตัวเองเพื่อเพิ่มโอกาสการ contribute ของตัวเอง เพราะ FOSS คือระบบที่เราสามารถมีส่วนทำให้มันเป็นอย่างที่ต้องการได้โดยตรง ไม่ใช่แค่รอ อย่างน้อย ผมก็เลือกที่จะอยู่ในกลุ่มที่ยืนยันว่ายังมีความต้องการ FOSS ในส่วนที่คนอื่น ๆ อาจจะใช้ non-free กัน
ก็เลยไม่เป็นคำถามสำหรับผม ว่า เถื่อนแค่ไหน การใช้แต่ FOSS ล้วน ๆ ก็ไม่ทราบว่าจะมีโอกาสใช้ของเถื่อนตอนไหน แต่ผมไม่พยายามรุกล้ำให้ผู้อื่นเลิกใช้ของเถื่อน เพียงแต่พยายามปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือเมื่อถูกร้องขอถ้าเป็นซอฟต์แวร์เถื่อน ส่วนลินุกซ์ ไม่ใช้ผมก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าใช้จะพยายามช่วย ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง
ปล่อยให้ BSA เป็นผู้กวดจับก็พอแล้ว ถ้าเราจะพูดเรื่องลิขสิทธิ์ ก็พูดในแง่ที่ว่า FOSS สามารถช่วยลดภาระอันเกิดจากค่าซอฟต์แวร์ได้อย่างไรดีกว่า การโปรโมท FOSS ด้วยการพูดถึงข้อดีของ FOSS ย่อมดีกว่าการผูกติดกับการรณรงค์ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์โดยเสี่ยงต่อการถูกเหมารวมเป็นพวกนายทุน
มีข้อยกเว้น คือการพูดเพื่อให้เข้าใจปรัชญา FOSS ในลักษณะที่ไม่ใช่ propaganda เช่น การทำความเข้าใจ GPL กรณีนั้น ไม่พูดถึงเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาย่อมไม่ได้
ป้ายกำกับ: FOSS