Theppitak's blog

My personal blog.

13 กรกฎาคม 2550

When Time Matters

อาการแสบตายังคงรบกวนการทำงานอยู่เรื่อย ๆ ผมเลยต้องหยุดพักเป็นระยะ ๆ โดยรีบพักทันทีที่เริ่มรู้สึกว่าอาการจะมา ก่อนที่จะแสบ เพราะถ้าปล่อยให้แสบแล้ว จะต้องพักอีกยาว

นั่นทำให้ผมมีเวลาอยู่หน้าเครื่องน้อยลง แช็ตได้น้อยลง (เพราะถ้าแช็ตยาว จะลุกกลางคันได้ยาก) แม้แต่จะเขียน blog ก็รู้สึกว่าเป็นการใช้เวลาหน้าเครื่องได้ไม่คุ้ม จะต้องเลือกทำแต่สิ่งที่เป็นเนื้องานเท่านั้น

ผมเคยพยายามเขียนอธิบายอุปสรรคของการทำงาน FOSS อิสระ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลี้ยงตัวเอง และการต่อต้านจากคนรอบข้าง โดยมีเจตนาจะให้ข้อมูลต่อผู้ที่อาจจะเดินตาม ว่าจะพบอุปสรรคอะไรบ้าง และอาจเป็นข้อมูลต่อผู้ที่อาจช่วยปรับสภาวการณ์ให้ดีขึ้น (เพราะตอนที่เริ่มออกมาทำงานอิสระ ผมเคยพูดไว้ว่า ขอเอาตัวเองเข้าทดสอบ) แต่ดูเหมือนไม่เป็นผลเท่าไรนัก มันกลายเป็นการบ่นหรือโอดครวญเสียมากในสายตาของผู้อ่าน หลัง ๆ ผมจึงเลิกเขียนถึงเรื่องเหล่านี้ แล้วพยายามมุ่งแก้ปัญหาตามลำพัง แม้จะต้องโหมทำงานหลายด้านพร้อมกัน ก็ยังคิดว่าตัวเองจะรับไหว

ถึงวันนี้ ที่สุขภาพตาไม่อำนวยต่อการทำงานหลายทางอย่างเดิมอีกแล้ว ทำให้อดไม่ได้ที่จะนึกเสียดายเวลาช่วงที่ผ่านมา ที่ได้ใช้เวลาไปกับเรื่องอื่นที่ไม่ใช่จุดมุ่งหมายของตัวเองด้วยความจำเป็น มาตอนนี้ แม้จะอยากพยายามรับมือกับทุกทางเหมือนเดิม ก็คงต้องจำกัดสิ่งที่ทำ ให้อยู่เฉพาะในสิ่งที่เป็นสาระสำคัญเท่านั้น ผมอาจต้องรับงานอื่นน้อยลง แช็ตน้อยลง รวมถึง blog น้อยลง ถ้าจะปรากฏตัวในเน็ต ก็คงจะมุ่งให้เหลือแต่ช่องทางเกี่ยวกับงานพัฒนาเป็นหลัก เช่นใน mailing list หรือ bugzilla

ผมยังเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังจะเดินในเส้นทางนี้นะครับ อย่าได้ท้อถอย อุปสรรคยิ่งมีมากเท่าไร ความสำเร็จที่ได้ฟันฝ่าก็ยิ่งมีค่ามากเท่านั้น แต่อย่าลืมดูแลตัวเองให้ดี ให้มีพละกำลังทำงานได้นาน ๆ

ป้ายกำกับ:

9 ความเห็น:

  • 13 กรกฎาคม 2550 เวลา 13:54 , Blogger Udomsak แถลง…

    คงเหงาและขาดข้อมูลเพิ่มเติมไปสมควร เหมือนกัน แต่ยังไงก็ให้ พี่เทพฯ พักผ่อน แยะๆ และกันครับ ช่วยผลักดันพัฒนา โอเพ่นวอร์สต่อไป ^^

     
  • 13 กรกฎาคม 2550 เวลา 13:58 , Blogger Udomsak แถลง…

    อ้อ ลืมบอกไป ผมก็เป็นครับแสบตา ถ้านั่งเกินกว่า สิบสองชั่วโทงต่อวัน โดยไม่ได้พัก หรือ พักน้อย ใช้ ยาหยอดตา เวิร์คป่ะครับ ? หรือพักสักหน่อย ก็ดี

     
  • 13 กรกฎาคม 2550 เวลา 16:08 , Blogger wd แถลง…

    เก๋ากี้ บำรุงสายตาได้อย่างยอดเยี่ยม และโยคะ แก้ปวดมือ
    ตัวอย่างท่าโยคะ

    ผมใช้สูตรนี้อยู่ครับ :)

     
  • 13 กรกฎาคม 2550 เวลา 17:52 , Blogger Neutron แถลง…

    พักผ่อนให้มาก ๆ นะครับ ถ้าไม่ไหวก็พัก สุขภาพสำคัญที่สุดครับผม


    งง.... เก๋ากี้ .... หน้าตาเป็นอย่างไรครับ มีชื่อไทยไหมครับ ตอนนี้อายุมากขึ้น สายตาก็เริ่มมีปัญหาเหมือนกันครับ :P

     
  • 13 กรกฎาคม 2550 เวลา 18:28 , Blogger wd แถลง…

    ผมลองเสิร์ชกูเกิลดูได้ความดังนี้ครับ
    http://www.it-gateways.com/charoenvej/Herb/kaoki.htm
    มีสูตรปรุงให้เสร็จสรรพ ;D

    นูสกินเอาไปผสมกับผลไม้อีกสามอย่าง ทำออกมาเป็นน้ำผลไม้รวม ขายขวดละเป็นพัน ๆ เขาคุยว่าที่ญี่ปุ่นใช้แก้สายตาสั้นได้ด้วย

    อายุเริ่มเยอะขึ้น ธรรมชาติเขาก็คอยจะเอากลับคืนน่ะครับ รีบ ๆ บำรุงไว้ พอแก่ตัวจะได้ทำงานไหว

     
  • 13 กรกฎาคม 2550 เวลา 21:31 , Blogger veer แถลง…

    Udomsak: ยาหยอดตาทำให้แสบกว่าเดิม!!! ใช้นำตาเทียมอาจจะช่วยได้บ้าง แต่ก็ควรพักด้วย.

    ป๋าเทพ: เรื่องที่ไม่จำเป็นตัดไปได้ก็ดีแล้วครับ. ผมก็พยายามจะทำให้ได้เหมือนกัน. ถ้าอยากติดต่อสื่อสารอาจจะใช้วิธีอัดเสียงแทนบ้างก็ดีนะครับ. จะได้สมดุลกัน.

     
  • 13 กรกฎาคม 2550 เวลา 23:37 , Blogger Noi แถลง…

    ต้องใช้น้ำตาเทียมครับ และพักสายตาบ่อยๆ หลับตาลงเพื่อไม่ให้สัมผัสอากาศ และได้น้ำตามาหล่อเลี้ยง (ขนาดผมตาตี่ มีพื้นที่ให้สัมผัสอากาศน้อย ก็ยังแสบตาเลย)

    เปลี่ยนจาก Chat ผ่านจอ เป็น Chat ผ่านไมค์และลำโพง? (แต่จะทำให้เกิดปัญหาแสบคอตามมาอีกหรือเปล่า?)

    หายไวๆ ครับ เป็นห่วงเสมอ :)

     
  • 16 กรกฎาคม 2550 เวลา 09:48 , Blogger Sakura แถลง…

    :-)

     
  • 16 กรกฎาคม 2550 เวลา 22:22 , Blogger GMz แถลง…

    ครั้งก่อนผมลืมบอกไปครับ นอกจากน้ำตาเทียมแล้ว ยังมีอีกหลายตัว ตอนนี้ผมไม่ได้หยอดน้ำตาเทียมแล้ว

    ที่บ้านผมจะมีเยลสีน้ำเงิน (เหมือนที่แปะตาตอนนอนน่ะครับ) นำไปแช่ไว้ข่องแช่แข็ง พอปวดตา บริเวณโดยรอบตาจะร้อน ต้องเอาเยลที่แช่แข็งนี้ออกมาประคบตา แล้วนอนหลับไปเลย (ประมาณ 1 ชม. หรือ จนกว่าเยลจะหายเย็น) ตื่นมาก็หายปวดแล้วครับ

    ต้องหาแว่นที่ป้องกันรังสี UV มาใส่ด้วยครับ ช่วยลดแสงที่มาจากหน้าจอคอมฯ

    ส่วนน้ำหล่อเลี้ยงตา ผมไปอ่านเจอในวารสารทางการแพทย์เขาบอกว่า กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 ช่วยป้องกันน้ำหล่อเลี้ยงตาแห้ง ผิวหนังแห้ง ได้เป็นอย่างดี หาซื้อน้ำมันปลามาทานวันละ 1000 มก. (1 แคปซูล)

    นอกจากนั้นผมยังทาน แลคตาซอยผสมคอลลาเจนด้วย คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่ช่วยทำให้ผิวหนังเต่งตึง และวิตามินรวมในกล่องก็ช่วยบำรุงสายตาด้วยครับ กล่องเดียวคุ้ม

    เท่านี้ก็ครบสูตรแล้วครับผม

     

แสดงความเห็น (มีการกลั่นกรองสำหรับ blog ที่เก่ากว่า 14 วัน)

<< กลับหน้าแรก

hacker emblem