Theppitak's blog

My personal blog.

31 พฤษภาคม 2547

ให้เธอสอน เธอจะสอนได้ไหม

เป็นสิ่งที่คาใจอยู่ตลอด เวลาได้ฟังเพลง “เพื่อเมืองไทย” ของคาราบาว “ให้เธอคิด” “ให้เธอทำ” ถึงทำจะยากกว่าคิด แต่ก็ไม่รู้สึกว่าเกินวิสัยของตัวเองที่จะทำได้ แต่ “ให้เธอสอน เธอจะสอนได้ไหม” นี่ “เป็นส่วนลึกของความในใจ” ของผมจริงๆ

  • สอนพิเศษฟิสิกส์ ม. ปลาย → เด็กทำคิ้วผูกโบอยู่ตลอด เด็กบางคนถึงกับหนีไป ไม่กลับมาเรียนอีกเลย บอกว่า เรียนไม่รู้เรื่อง
  • บรรยายคอร์สลินุกซ์ → เสียงตอบกลับคือ “เมื่อไหร่อาจารย์จะพาคลิก ทำไมสอนแต่คำสั่ง (command line)” แต่ครั้นพยายามจะสอนคลิก ก็เงอะงะ ไม่รู้จะสอนยังไง นักเรียนคลิกเองยังเร็วกว่า
  • เขียนเอกสาร open source สำหรับผู้เริ่มต้น → โดนตีกลับมาแก้แล้วแก้อีก บอกว่า “too technical,” “still too technical,” “hey, could you just ...” blah blah blah

หลายต่อหลายครั้ง ทำให้เสียความมั่นใจในการสอนเหมือนกัน และพบว่า “ทำได้” กับ “สอนได้” เนี่ย มันคนละเรื่องกันจริงๆ แต่ก็ได้พยายามสำรวจตัวเอง ว่าบกพร่องตรงไหน (ไม่งั้นเท่ากับตัดทางอยู่รอดในโลก FOSS ไปทางหนึ่งทีเดียว) ตอนนี้คิดว่า สิ่งที่ผมแยกไม่ค่อยออกก็คือ ระดับของเนื้อหา การจำแนกลำดับขั้นจากง่ายไปยากเป็นปัญหาของผมจริงๆ เรื่องบางเรื่อง ผมรู้สึกไม่พอใจกับการพูดแค่ผิว ผมมักเผลออยากให้ผู้เรียนได้ “ลิ้มรสชาติ” ของความรู้แจ้ง ที่ได้กลืนกินมาในระหว่างการเรียนรู้ของตัวเอง ก็เลยกลายเป็นการลงรายละเอียดมากเกินไป ความรู้สึกอยากให้ลิ้มรสมันฝังลึกถึงกับว่า ผมมองมันเป็นขั้นตอนตามธรรมชาติของการเรียนรู้ ถ้าไม่ลงลึกขนาดนั้น มันก็แค่ได้ “รู้จัก” แต่ไม่สามารถ “ประยุกต์” ได้ และผมจะอึดอัด ถ้าได้เจอหนังสือที่พูดกับผมเพียงแค่นั้น

ในอีกแง่หนึ่ง ความรู้สึกที่ว่า “an equation is worth a thousand words” ก็ทำให้เลือกวิธีอธิบายที่คิดว่าตรงสู่จุดหมาย ง่ายกว่าบรรยายแบบขี่ม้าเลียบเมือง แต่ปรากฏว่าผลที่ได้จะผิดความคาดหมายอยู่เนืองๆ

คิดไปคิดมา สไตล์ที่ผมใช้ มันอาจจะเหมาะกับการค้นคว้าด้วยตัวเองมากกว่า ถ้าจะเอามาสอนกันในชั้น อาจต้องใช้เทคนิคอื่น คิดไปคิดมาก็เริ่มรู้สึกว่า ถ้าจะคิดเป็นอาจารย์ (ซึ่งก็ไม่เคยคิด) ควรเรียนครุศาสตร์ด้วย และควรใช้เวลาเตรียมสอนนานขึ้นอีก

อ้อ.. ส่วนเรื่องคอร์สลินุกซ์ อันนั้นคงต้องไปหัดคลิกมาจริงๆ เอาไว้ใช้กับลูกค้าด้วย ตอบคำถามเรื่องโปรแกรม burn CD ว่า cdrecord เนี่ย โดนตะเพิดมาแล้ว (แต่จะทำใจหัดได้เร้อ เทพเอ๊ย..)

6 ความเห็น:

  • 1 มิถุนายน 2547 เวลา 03:26 , Blogger NOI แถลง…

    ผมว่าเราน่าจะมาลองจับคู่ทำงานร่วมกันดูสักครั้งไหมครับ? เพราะผมถนัดคลิ๊ก และอยากรู้ลึก (ในบางเรื่อง) นี่ผมพูดจริงๆ นาครับ ... คุณเทพคิดว่าอย่างไรครับ ?

     
  • 1 มิถุนายน 2547 เวลา 19:31 , Blogger jark แถลง…

    I love teaching. I think it is not possible to "enlight" students in the classroom. What the teachers, lecturers, tutors, could do is to introduce the students to familiar to the content, jargons, (usual) way of thinking in the field (f.ex. I know Linux but I have never known how any programs in Linux were created, then the way of thinking will be something like how to use editor, how to compile, what is MAKE, etc), so if he/she/they would like to know more, it must be his/her/their own task.

    Truely and deeply understanding is quite a personal thing. You need a quiet place, a good book (or document), and a heart full with motivation. What teacher could give to the students are, a list of good books, and good reasons to read them.

    In case of entrance tutorial, I think the students expect shortcuts, not the true knowledge.

    Yoda has to select who will be his prentice. Not all of Jedi candidates can be his prentice.

     
  • 1 มิถุนายน 2547 เวลา 21:06 , Blogger Thep แถลง…

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำจากคุณ ktphong นะครับ คิดว่าได้แง่คิดบางอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน นั่นสินะ ทำไมถึงพยายามคิดจะให้ใคร "รู้แจ้ง" ในห้องเรียน (แต่ผมเคยนะ ผมว่าอาจารย์เก่งมากเลย แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะต้องพยายามทำให้ได้อย่างนั้น) และที่สำคัญ ทำไมผมไม่ทำใจให้รักการสอน ทำไมผมมัวแต่คิดว่า การสอนเป็นเพียงหนทางอยู่รอดของการ develop FOSS... เรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะแต่การสอน เรื่องอื่นๆ ที่ผมคิดว่า ทำเพื่อมาหล่อเลี้ยงงานพัฒนาเท่านั้น ไม่ใช่งานหลัก ผมก็จะทำไม่ได้ดีเท่าที่ควร... ดังนั้น ต่อไปถ้าจะรับงานเสริม ผมควรให้ "ใจ" กับมันด้วย ไม่ใช่ให้แค่ "เวลา"

     
  • 1 มิถุนายน 2547 เวลา 21:10 , Blogger Thep แถลง…

    ตอบคุณหน่อย... ผมคิดอยากฟอร์มทีมเหมือนกันครับ ทำคนเดียวแล้วเหนื่อยใช่เล่น กับงานบางงาน ติดอยู่ที่เรื่องสถานที่นี่แหละ อย่างเช่นงานที่รับที่ขอนแก่น คนอยู่กรุงเทพฯ ก็เดินทางไปมาลำบาก

     
  • 2 มิถุนายน 2547 เวลา 09:48 , Blogger NOI แถลง…

    อืม นั่นนะสิครับ .. แต่ผมก็คิดจะกลับไปอยู่ขอนแก่นอยู่นะ :) อาจจะต้องให้เวลาช่วยแก้ไขปัญหากระมังนิ ;)

     
  • 20 มิถุนายน 2547 เวลา 15:04 , Blogger pook แถลง…

    Actually, this point I have just discussed my indonesian friend last week. We talked about how many years that we spent in school. He took 5 years and a half to finish his engineer degree. Somehow, he now is considered as one of successful man among his peers. Then, I asked him he explained:
    Life between in univerity and in working places are tolally different. We only used the concept only 5 - 10% from university for the real job; the rest is about experiences and application we are learning everyday. First, I was doubt!! However, I read your stories, I totally agree with him.

    Don't be worry, no one is perfect. Just try to be what you like to be and confident what you did and doing.

    Take care,

    Your friend :)

     

แสดงความเห็น (มีการกลั่นกรองสำหรับ blog ที่เก่ากว่า 14 วัน)

<< กลับหน้าแรก

hacker emblem